อาการช่องคลอดฉีกขาดใช้เวลาในการรักษากี่วัน 

อาการช่องคลอดฉีกขาด เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อเนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอดเกิดการฉีกขาด ซึ่งมักพบในกรณีที่มีการคลอดบุตร การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ อาการนี้สร้างความเจ็บปวดและไม่สบายตัวให้กับผู้ป่วย และในบางกรณีอาจเกิดการติดเชื้อหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

สาเหตุของช่องคลอดฉีกขาด

  1. การคลอดบุตรธรรมชาติ  

   การคลอดบุตรโดยเฉพาะในกรณีที่ทารกมีขนาดใหญ่ หรือการคลอดเร็ว อาจทำให้ช่องคลอดฉีกขาดได้ โดยเฉพาะบริเวณฝีเย็บหรือผนังช่องคลอด

  1. การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง  

   หากไม่มีการหล่อลื่นเพียงพอ หรือมีการใช้แรงมากเกินไป อาจนำไปสู่อาการฉีกขาดของเนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอด

  1. การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ  

   อุบัติเหตุ เช่น การล้มกระแทกอย่างแรง อาจทำให้ช่องคลอดเกิดความเสียหาย

  1. การใช้เครื่องมือทางการแพทย์ 

   การใช้เครื่องมือช่วยคลอด เช่น คีม หรือสูติแพทย์ต้องทำการกรีดฝีเย็บ อาจทำให้เกิดการฉีกขาดของเนื้อเยื่อ

  1. การติดเชื้อหรือเนื้อเยื่ออ่อนแอ  

   การติดเชื้อเรื้อรังหรือเนื้อเยื่อช่องคลอดที่บางลง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการฉีกขาด

 

อาการของช่องคลอดฉีกขาด

– ความเจ็บปวดบริเวณช่องคลอด

– มีเลือดออกจากช่องคลอด

– รู้สึกปวดแสบเมื่อปัสสาวะ

– บริเวณฝีเย็บบวมแดงหรือมีแผลเปิด

– อาจมีการติดเชื้อร่วม เช่น มีหนองหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์

การรักษาและระยะเวลาฟื้นตัว

การรักษาช่องคลอดฉีกขาดขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของการฉีกขาด ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ระดับ:

  1. ระดับ 1 (ฉีกขาดเล็กน้อย)  

   เนื้อเยื่อฉีกขาดที่บริเวณผิวหนังด้านนอกหรือฝีเย็บ มักไม่จำเป็นต้องเย็บแผล สามารถหายได้เองใน 1-2 สัปดาห์

  1. ระดับ 2 (ฉีกขาดปานกลาง) 

   การฉีกขาดลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ ต้องเย็บแผลเพื่อช่วยให้เนื้อเยื่อสมานตัว ระยะเวลาฟื้นตัวประมาณ 2-4 สัปดาห์

  1. ระดับ 3 (ฉีกขาดรุนแรง)  

   การฉีกขาดถึงกล้ามเนื้อหูรูดของทวารหนัก ผู้ป่วยต้องได้รับการเย็บแผลและดูแลอย่างใกล้ชิด โดยอาจใช้เวลาฟื้นตัว 4-6 สัปดาห์

  1. ระดับ 4 (ฉีกขาดร้ายแรงที่สุด) 

   ฉีกขาดลึกถึงเยื่อบุทวารหนัก การรักษาอาจต้องใช้เวลามากกว่า 6 สัปดาห์ พร้อมการดูแลพิเศษเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

 

การดูแลตนเองหลังการรักษา

– ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำอุ่นและสบู่ที่อ่อนโยน

– หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงพักฟื้น

– ดื่มน้ำมาก ๆ และรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูงเพื่อป้องกันอาการท้องผูก

– รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น ยาแก้ปวดหรือยาปฏิชีวนะ

 

การป้องกันอาการช่องคลอดฉีกขาด

– ใช้สารหล่อลื่นเมื่อต้องการเพิ่มความลื่นระหว่างการมีเพศสัมพันธ์

– เตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการคลอด เช่น การออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน

– ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการดูแลและการทำคลอดที่เหมาะสม

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย       เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่

Proudly powered by WordPress | Theme: Nomad Blog by Crimson Themes.